tag:blogger.com,1999:blog-4982642316733291562024-03-14T10:02:24.815+07:00technically sweetfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.comBlogger171125tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-78202964616286317162014-02-07T15:53:00.002+07:002014-02-26T14:40:49.635+07:00My Sassy Book ตอน 49: Mr. Penumbra's 24- Hour Bookstore โดย Robin Sloan
My Sassy Book ตอน 49: Mr. Penumbra's 24- Hour Bookstore โดย Robin Sloan
ลองนึกถึงขนาดและรูปทรงของร้านหนังสือปกติที่ถูกจับตะแคง สถานที่นี้มันทั้งแคบและเสียดสูงจนชวนเวียนหัว ชั้นหนังสือตั้งคอสูงราวตึกสามชั้นได้ละมั้ง หรือสูงกว่านั้นอีก ผมเอียงคอมองตาม (ทำไมร้านหนังสือถึงชอบให้คุณทำท่าที่ไม่เหมาะกับคอนะ) ไล่ตาตามแถวหนังสือที่เนียนหายไปในเงามืดราวกับบอกเป็นนัยว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-83638801363460104542013-07-10T12:36:00.002+07:002013-07-10T12:43:03.169+07:00My Sassy Book ตอน 48: All Men of Genius โดย Lev A. C. Rosen
My Sassy Book ตอน 48: All Men of Genius โดย Lev A. C. Rosen
นี่เป็นนิยายที่สีสันแพรวพราว ฉลาด ลูกล่อลูกชน แม้จะมากด้วยพล็อตและตัวประกอบเพียบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต้องระแวงว่าความเป็นวรรณกรรมของมันน่าสงสัย หวังจะถูกซื้อไปทำหนังจนเกินเหตุ
ในยุควิคตอเรียนที่เป็นจริงเพียงส่วนเสี้ยว ตามจินตนาการผสมผสานอนาคตแบบนิยาย Steampunk
ไวโอเล็ต กับ แอชตั้น เป็นวัยรุ่นชายหญิงฝาแฝดเกิดวันfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-278662147245618412013-07-10T12:29:00.003+07:002013-07-10T12:38:20.248+07:00My Sassy Book ตอน 47: The Manual of Detection โดย Jedediah Berry
My Sassy Book ตอน 47: The Manual of Detection โดย Jedediah Berry
ในเมืองที่ฝนตกตลอดเวลา และมีแต่คนปฏิบัติงานดั่งคนเดินละเมอ นาฬิกาปลุกอันตรธานหายไปทั้งเมือง นักสืบจำเป็นที่ตกกระไดพลอยโจนและไม่อาจยึดคู่มือนักสืบเป็นสรณะ องค์กรลึกลับขนาดยักษ์ที่มีผู้จับตาซ้อนทับหลายชั้น สาวลึกลับสองคนที่ต่างมีอาการนอนไม่พอเป็นแกนร่วม นักเขียนคู่มือสืบสวนที่อยากลืมแต่กลับจำ หนึ่งวันในสัปดาห์ที่หายไปโดยทุกfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-1440095896271619532013-04-19T15:22:00.004+07:002013-04-19T15:22:55.021+07:00My Sassy Book ตอน 46: Thief นิยายของ Maureen Gibbon
My Sassy Book ตอน 46: Thief
นิยายของ Maureen Gibbon
"You can't do anything for me or with me to make up for your crime. Nothing. There is no trading on sorrow."
คนที่ดูหนังหรืออ่านหนังสือมักจะหลงภูมิใจเวลาเจอของโดนใจด้วยการค้นพบเอง ไม่ใช่จากใครที่ไหนกระซิบบอก หรืออ่านจากใครแนะนำ เยส หนังสือเล่มโปรดที่ข้าค้นพบเองโว้ย ไม่มีใครแถวนี้เคยพูดถึงให้ได้ยินโว้ย แต่ก็นะ มีหรือของที่ไม่มีใครfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-41312408428871843502013-04-19T15:19:00.005+07:002013-04-19T15:19:42.985+07:00Road House
Road House
a film by Jean Negulesco
with Ida Lupino and Richard Widmark
ปกติหนังเก่ารุ่นนี้ดูแล้วไม่น่าจะอินมาก แต่กับเรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่อง ยื่งดูไปถึงท้ายเรื่องชักรู้สึกมันทันสมัยขึ้นเรื่อย ๆ การแสดงก็ดูสดมากขึ้นเรื่อย ๆ กับแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ริชาร์ด วิดมาร์ค แสบถึงทรวง และ ไอดา ลูปิโน่ เธอหายห่วง
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-40917880951895569932013-04-19T15:17:00.003+07:002013-04-19T15:17:40.745+07:00The Big Knife
The Big Knife
a film by Robert Aldrich
เคยดูฟิล์มยี่สิบกว่าปีที่แล้ว จำอะไรไม่ได้เลย เพราะอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง แล้วหนังนี่เด่นที่ประโยคพูดจริง ๆ เพราะมันมาจากบทละครของ Clifford Odets ฉากก็แทบจะฉากเดียว เรื่องราวบัดซบหักหน้าหกหลังในวงการหนังเข้มข้นกดดันโคตร ๆ (เรื่องจริงหรือเปล่า) เพิ่งรู้ว่า Jack Palance และ Rod Steiger ก็ทำให้ชอบได้
เป็นหนังฮอลลีวู้ดที่ด่าวงการหนังแรงกว่าอีกfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-13811962360629131402013-04-19T15:15:00.001+07:002013-04-19T15:15:10.532+07:00Moontide
Moontide
a film by
Archie Mayo
หนังขาวดำที่ดูเมื่อปีที่แล้ว แต่ประทับใจถึงวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่า Jean Gabin จะเล่นหนังอเมริกันแล้วดูดี ไม่ค่อยศรัทธาคนฝรั่งเศสพูดภาษาอังกฤษไง แต่ ฌอง กาแบ็ง แสดงซึ้งมากกับ Ida Lupino ดูจบแทบกระโดดเย้ เขียร์ให้พระนางสมหวัง
ฉากที่เป็นฉากบ้านบนแพและบรรยากาศรอบ ๆ ริมน้ำนี้เป็นฉากที่งดงามที่สุดของฉากในหนังสตูดิโอตั้งแต่เคยดูหนังมา
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-30101261179637641442013-04-18T12:20:00.001+07:002013-04-18T12:21:07.800+07:00 สิ้นคิด bookvirus เล่ม 10 : ศรีนวลจัดหนัก (Destroy, She Said)
ทำไมยังพิมพ์หนังสืออีกวะ
พาตัวเองให้เครียดกับการหาเงินมาพิมพ์หนังสือใหม่ เล่มหนาเสียด้วย แต่มันไม่มีคำว่าพิมพ์ไม่ได้ ยังไงมันต้องพิมพ์ เงินยังไงก็ต้องหามา เพื่อว่า "นางเพลิง" และ "นารีนิยาม" จะได้ไม่ตายเปล่า
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-64139039331105475072013-04-16T08:25:00.003+07:002013-04-16T08:36:59.573+07:00My Sassy Book ตอน 45: Everything is Nice โดย Jane Bowles
My Sassy Book ตอน 45: Everything is Nice
รวมเรื่องสั้น บทละคร จดหมาย และงานเขียนที่คั่งค้างของ Jane Bowles
คุณนายคอนสเตเบิ้ล: รีบเร่งเหรอ... ฉันไม่ยักรู้ว่าคนเขายังต้องรีบร้อนกัน.....
อินเนซ: เอาอีกแล่ว พ่อเจ้าประคุ้ณ
คุณนายคอนสเตเบิ้ล: ถ้างั้นคุณคงจัดอยู่ในหมวดของคนที่โชคดีที่ยังไมได้พบตัวเองอยู่ริมหลุมดำ เพราะจากนั้นแล้วมันไม่มีหรอกไอ้เรื่องรีบเร่งน่ะ มันมีแต่การรอคอย มันดูป่วยการไปfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-70769525062748827262013-04-15T11:09:00.004+07:002013-04-15T11:09:41.330+07:00My Sassy Book ตอน 44: อตีเตกาเลโดย แดนอรัญ แสงทอง
My Sassy Book ตอน 44: อตีเตกาเล
เรื่องสั้น 3 เรื่องโดย แดนอรัญ แสงทอง
ป่า ผี ไสยศาสตร์ พุทธ ตำนานย้อนยุค การต่อสู้ของคนกับสัตว์ จิตใจสัตว์ของคน และเรื่องเล่าแออัดที่ยัดแย่งกันเล่าในกระท่อมผู้ชนะของ แดนอรัญ แสงทอง ใน อตีเตกาเล คราวนี้พี่แดน วรเวทย์ เอ๊ย มหาเวทย์ มาพร้อมกับสิ่งร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมกับอารมณ์ขันสไตล์ผ่อนคลาย และโทรศัพท์มือถือ! แต่ก็เฉพาะในเรื่องแรกอ่ะนะ เล่มนี้ออกมาได้filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-16496236615832612262013-04-15T11:01:00.001+07:002013-04-15T11:11:19.317+07:00แปลกคน
เมื่อก่อนมีหนังอินดี้เราก็คิดว่าคนดูคงไม่พร้อมกับหนังแบบเรา มาถึงตอนนี้ทุกคนเป็นอินดี้ แต่เรายิ่งแปลกแยกกว่าเดิมอีก ถ้าตัดหนังเสร็จจริงกลับไม่อยากฉายแล้ว
ภาพฝีมือของ grazianopanfili
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-82063131290733614452013-04-14T09:48:00.003+07:002013-04-14T18:03:42.638+07:00My Sassy Book ตอน 43: The Briefcase โดย Hiromi Kawakami
My Sassy Book ตอน 43: The Briefcase
โดย Hiromi Kawakami
อ่านเรื่องย่อแล้วไม่อยากอ่านเลย กลัวจะแนวเดียวกับ Hotel Iris ของ โยโกะ โอกาว่า หรือหนังญี่ปุ่นดาด ๆ แต่ ฮิโรมิ คาวาคามิ เธอมาเนียน ๆ เงียบ ๆ ไม่กระโตกกระตาก ตรงที่จะกลายเป็นขายความ weird หรือหมกมุ่นเดิม ๆ แบบคนญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ อาจจะคล้าย"รักไม่เรียบ" (สนพ. Sunday Afternoon) อยู่บ้างตรงนางเอก ผสมกับความเซอร์แบบ "ม้าน้ำfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-41873027581819125442013-04-14T09:38:00.003+07:002013-04-14T09:38:30.312+07:00My Sassy Book ตอน 42: Revenge โดย Yoko Ogawa
My Sassy Book ตอน 42: Revenge
โดย Yoko Ogawa
แค่เห็นชื่อเรื่องก็ไม่น่าซื้อแล้ว แต่เพราะเป็น โยโกะ โอกาว่า เลยลองดู กลับชอบมากกว่าเล่ม Diving Pool กับ Hotel Irs แฮะ เหมือนดูหนังญี่ปุ่นที่มีอะไรเพี้ยน ๆ แต่ก็ละเมียดในอารมณ์ โดยเฉพาะการบรรยายถึงเสียงสะอื้นของพนักงานในห้องหลังร้าน ระหว่างที่ลูกค้ามารอซื้อเค้ก กับเรื่องที่เด็กสองคนเจอคลังกีวีในไปรษณีย์ร้าง ส่วนตอนที่บรรยายถึงfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-21440690973097208712013-04-14T09:31:00.002+07:002013-04-16T17:08:23.829+07:00William Eggleston in the Real World
ไม่นานมานี้ เอามาดูซ้ำ ทำให้คิดถึงประเด็นฮ็อตของสองหนังไทยขณะนี้ เบื่อความเห็นสองฝั่งมาก พวกที่ปกป้องกันใหญ่ก็ชวนระเหี่ย พวกเอาแต่ด่าเหยียบส่งก็เวอร์ แต่ความคาดหวังของคนดูนี่เป็นอะไรที่สาหัสทีเดียว อย่างบางคนที่ดูเรื่องนี้แล้วเกิดอยากได้สารคดีที่ตรงไปตรงมา เล่มปูมประวัคิตามหลักสารคดีทั่วไป ฝรั่งก็เป็น แต่คนไทยท่าจะหนักกว่า สุดท้ายก็กลับไปลงเรื่อง ego ที่เถียงกันจะเป็นจะตาย เพราะมองfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-80375965210579486052013-02-09T21:16:00.002+07:002013-02-27T22:52:13.742+07:00อวยชัย ไชโย ให้ร้านหนังสือหมื่นทิพ กำแพงเพชร
ร้านไหนที่มี "นี่แหละโลก" ของ ดอกไม้สด, เรื่องผีของ เหม เวชกร, ศรีบูรพา กับบ็อกเซ็ทของ เฮมมิ่งเวย์, นิยายกำลังภายใน และ "โมโม่" พึงต้องตรวจตราอย่างแข็งขันด้วยความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนรักหนังสือทางเลือก วรรณกรรมชั้นดีไม่ได้มีให้คุณเลือกอ่านง่ายนักทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยเฉพาะร้านหนังสือแฟรนไชส์ค่ายใหญ่ทั้งหลาย หากใครไปกำแพงเพชร อย่าลืมแวะไปอุดหนุน ร้านหนังสือเปิดใหม่ที่ไม่filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-13897087486745684562013-01-03T23:15:00.005+07:002013-01-03T23:15:31.286+07:00นางในรูป ของ ดอกไม้สด
"หลวงมนู ฯ บอกให้ฉันมาที่นี่ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ฉันหายบ้าได้อย่างเด็ดขาด คุณจะไม่ช่วยกรุณารักษาฉันหรือ?"
"ดิฉันไม่ใช่หมอนี่คะ"
"คุณเป็นหมอที่สำคัญเฉพาะโรคเกี่ยวกับฉันนี้ - คุณเสลาโปรดตอบฉันหน่อยเถิดว่า ภายหลังที่ฉันได้พยายามจะเอาคุณหมกกอไผ่แล้วไม่สำเร็จ เดี๋ยวคุณจะลืมเรื่องนั้นเสีย แล้วอนุญาตให้ฉันหมกคุณไว้ในห้องหัวใจตลอดชีวิตได้หรือไม่?"
"ดิฉันไม่เคยรู้เรื่องที่คุณจับดิฉันfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-88815068072713490582012-12-30T22:05:00.004+07:002012-12-30T22:08:53.139+07:00My Sassy Book ตอน 41: นี่แหละโลก ของ ดอกไม้สด
นี่แหละโลก
ดอกไม้สด
เพื่อนถามว่าอันดับหนังแห่งปีมีอะไรบ้าง รู้สึกจัดยากเกินไปเพราะดูเยอะเกิน แต่ถ้าถามอันดับนิยายหรือวรรณกรรมแห่งปี หรืออมตะยาวเหยียด ขอยกให้เล่มนี้
นี่แหละนิยายที่พร้อมสรรพในความเป็นนิยายไทยและสากล อนุรักษ์และก้าวล้ำในเวลาเดียวกันอย่างที่หาได้ยาก กลับตาลปัตรภาพพจน์นางเอกพระเอกได้อย่างเหลือคาด และให้อุปนิสันใจคอตัวละครมากมายได้อย่างไกลการณ์ ในบรรดานิยายไทยที่ได้อ่านfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-85851761293687844642012-12-30T22:03:00.002+07:002012-12-30T22:03:09.457+07:00เงา จากรวมเรื่องสั้นชุด "ปราสาททราย" ของ ทราย เจริญปุระ
ผมแอบเก็บกระจกเงาทุกบานออกจากห้องนี้ เพราะผมกลัวที่จะเห็นตัวเองในสีที่แปลกออกไป
"ฉันไม่รู้ว่าคุณได้ใช้ถ้วยกาแฟนั่นบ้างหรือเปล่า แต่ถ้าคนที่ได้มันไปคือฉัน มันคงเป็นของขวัญที่ไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย หัวใจกับฉันไม่ถูกกับกาแฟค่ะ แต่ตัวคุณคงไม่เป็นไร เพราะฉันเห็นคุณดื่มกาแฟอยู่บ่อย ๆ ในเวลาทำงาน มันทำให้หัวใจคุณเต้นแรงหรือเปล่าคะ? สำหรับฉัน แค่เห็นคุณดื่มกาแฟ หัวใจก็เริ่มเต้นผิดจังหวะเสียfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-382920493900094302012-12-30T21:51:00.003+07:002012-12-30T22:45:39.449+07:00ผู้ชาย ผู้ชาย ในสายตาของ มาร์เกอริต ดูราส
"All Men are potentially homosexual".
"คุณต้องชอบผู้ชายเอามาก ๆ แบบชนิดที่เรียกว่าปลาบปลื้มทีเดียว คุณต้องติดอกติดใจพวกผู้ชายขนาดนั้นถึงจะรักพวกเขาได้ ไม่งั้นนะ พูดก็พูดเถอะ ใครจะทนไหว"
ผู้หญิงมักจะเก็บบิลค่าไฟค่าแก๊สเป็นเวลานานนับยี่สิบปี เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเป็นการบันทึกเวลาและวินัยที่ดีของตัวเอง บันทึกถึงเวลาที่พวกหล่อนเคยมี แต่ไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว
จากหนังสือ filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-66758267711431476372012-12-30T19:04:00.004+07:002012-12-30T19:04:56.253+07:00ไร้เกียรติยศ ของ J.M. Coetzee
เหมือนการตกหลุมรัก หนุ่มสาวสมัยนี้จะยังตกลุมรักกันอยู่หรือเปล่า หรือมันจะเป็นกลไกที่พ้นสมัยไปแล้วในปัจจุบัน กลไกที่ไม่จำเป็นและประหลาดคร่ำครึเหมือนหัวรถจักรไอน้ำ เขากลายเป็นคนตามโลกไม่ทัน ล้าสมัย เท่าที่เขารู้ การตกหลุมรักอาจจะพ้นความนิยมไป แล้วกลับมานิยมใหม่ได้หลายครั้ง
ไร้เกียรติยศ แปลโดย ขจรจันทร์
จาก Disgrace ของ J.M. Coetzee
สนพ. เอโนเวล (นานมีบุ๊คส์)
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-55227665244057305982012-12-29T22:15:00.003+07:002012-12-29T22:17:49.990+07:00เก็บไว้เป็นความสุขส่วนตัว
เคยยุให้น้องคนหนึ่งที่ชอบอ่านวรรณกรรมให้ลองมาแปลหนังสือบ้าง แต่เธอบอกว่าอยากเก็บหนังสือที่ชอบไว้เป็นของตัวเองคนเดียว ฟังตอนนั้นก็แปลกใจและเสียดาย....แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว
เมื่อหลายเดือนก่อนได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่ซื้อมาก็เพราะเห็นรูปสวยน่าสนใจ แต่พอเปิดดูฉากแรกต้องแปลกใจจนลืมนั่งเก้าอี้ เพราะมันเปิดเรื่องได้ประหลาดมากตั้งแต่ฉากแรก แล้วยิ่งประหลาดเข้าไปอีกที่กดfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-31501624156686352252012-12-28T22:16:00.002+07:002012-12-28T22:16:07.749+07:00ดอกไม้สด ซ้อนเรื่องจริง
"ดูเหมือนผู้หญิงทุกคนรักพระจันทร์ แต่ผู้ชายเห็นจะไม่ค่อยมีเท่าไร อย่างฉันน่ะเพราะหัดจึงได้รัก รักไว้เป็นเพื่อนนั่นเอง" คำสุดท้ายของเขามีเสียงถอนหายใจแกมออกมาด้วย เมื่อหยุดพูดแล้ว เขาก้มตัวลง ข้อศอกท้าวกำแพงเตี้ยที่ล้อมรอบเขตพัทธสีมา และยกมือขึ้นเสยผม
ดอกไม้สด
ซ้อนเรื่องจริง
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-71704576031637866922012-12-25T23:21:00.001+07:002012-12-25T23:22:22.079+07:00ดอกไม้สด ศัตรูของเจ้าหล่อน
แม้หล่อนไม่เคยกล่าวคำว่า "รัก" หล่อนก็ไม่เคยกล่าวคำว่า "ไม่รัก" ด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ความหวังของเขาจะไม่แล่นสุดขีดได้อย่างไร ครั้นมาบัดนี้ หล่อนใช้น้ำเสียงอันน่าเกลียดตัดรอนเขาดื้อ ๆ โดยไม่ให้คำอธิบาย หัวอกหนุ่มโลหิตกำลังแรงจะทนไหวไหม? ถ้าเขาผู้นั้นลุโสดาบันบางที แต่นายละออยัง รสพระธรรมกับเขายังรู้จักกันน้อยนัก
ดอกไม้สด
ศัตรูของเจ้าหล่อน
filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-36827923161445113162012-12-07T23:24:00.001+07:002012-12-07T23:24:24.506+07:00งานเขียนของ โยโกะ ทาวาดะ (Yoko Tawada) ตอน ๘
อาชีพของฉันคือทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเยอรมัน-ญี่ปุ่น วันที่เกิดเหตุเป็นการเจรจาธุรกิจซื้อขายระหว่างสองบริษัทข้ามชาติในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตัวแทนจากสองฝ่ายนั่งประจันหน้ากันที่โต๊ะยาวเหมือนกลุ่มเด็กซนที่กำลังจะประกาศสงคราม ฉันนั่งถัดจากประธานบริษัทญี่ปุ่นที่เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มชายวัยกลางคนในชุดสูท และคำพูดเบา ๆ คำแรกที่ทำลายความเงียบคือคำกล่าวอ้างอิงถึงเสื้อผ้าของสาวเยอรมันฝั่งตรงข้าม
“ผู้filmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-498264231673329156.post-28911436424836576392012-12-07T23:21:00.002+07:002012-12-07T23:25:20.604+07:00งานเขียนของ โยโกะ ทาวาดะ (Yoko Tawada) ตอน ๗
ฉันรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของ Xander เพราะเขาเปรียบดั่งกับผู้เนรมิตนามของคำต่าง ๆ คำภาษาเยอรมันแทบทุกคำฉันเรียนรู้จากเขา ฉันหลงรักคนที่สอนคำให้ฉัน การพูดทวนคำทุกคำที่เขาสอนทำให้ฉันรู้สึกว่าลิ้นของฉันเป็นของ ซานเดอร์
“หนังสือ” (buch)
แม้แต่ชื่อ ซานเดอร์ ก็เป็นปริศนาที่ชวนสนเท่ห์สำหรับฉันมาตลอด กว่าที่ฉันจะเข้าใจว่ามันคือคำย่อจาก “อเล็กซานเดอร์ “ (Alexander) ก่อนหน้านี้มันทำให้ฉันfilmvirushttp://www.blogger.com/profile/01769346012239293779noreply@blogger.com0