7.2.57

My Sassy Book ตอน 49: Mr. Penumbra's 24- Hour Bookstore โดย Robin Sloan

My Sassy Book ตอน 49: Mr. Penumbra's 24- Hour Bookstore โดย Robin Sloan


ลองนึกถึงขนาดและรูปทรงของร้านหนังสือปกติที่ถูกจับตะแคง สถานที่นี้มันทั้งแคบและเสียดสูงจนชวนเวียนหัว ชั้นหนังสือตั้งคอสูงราวตึกสามชั้นได้ละมั้ง หรือสูงกว่านั้นอีก ผมเอียงคอมองตาม (ทำไมร้านหนังสือถึงชอบให้คุณทำท่าที่ไม่เหมาะกับคอนะ) ไล่ตาตามแถวหนังสือที่เนียนหายไปในเงามืดราวกับบอกเป็นนัยว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด 

หิ้งหนังสือที่สูงปรี๊ดเบียดแนบชิดกันให้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ริมป่า ไม่ใช่ป่าเกลี้ยงๆ แบบในแคลิฟอร์เนียนะ แต่เป็นป่าโบราณแถบทรานซิลเวเนีย มีทั้งหมาป่า แม่มด และคมกริชโจรสลัดที่คอยซุ่มอยู่ในเงามืดพ้นแสงจันทร์ มีบันไดให้ต่อยอดขึ้นไปบนชั้นหนังสือสูงลิ่ว ให้อารมณ์ห่อเหี่ยว มันเพรียกเสียงเล่าอ้างแห่งมหันตภัยในรัตติกาล



ปีที่แล้วอ่านหนังสือไปหลายเล่มที่ชอบ แต่ไม่ได้บันทึกเลย หยิบเล่มนี้ที่คิโนะคุนิยะ เพราะเห็นว่าเกี่ยวกับร้านหนังสือ ด้วยความที่ชอบร้านหนังสือเป็นทุน อยากทำร้านหนังสือ อยากถ่ายหนังเกี่ยวกับร้านหนังสืออยู่แล้ว มาเจอเล่มนี้อ่านพล็อตนึกถึงนิยายเรื่อง The Abortion ของ Richard Brautigan ขึ้นมาเลย เพราะเกี่ยวกับพนักงานร้านหนังสือและลูกค้าที่ไม่ชอบมาพากลเหมือนกัน แต่พออ่านจบแล้วไม่เหมือนกันเลย พาไปคนละทาง ตอนแรกเหมือนจะไปในทางสืบหาเรื่ององค์กรลับที่พระเอกต้องกู้โลกหรือเปล่า โชคดีที่ไม่ใช่ ไปดีกว่านั้นเยอะ ฉลาด มองโลกเปิดกว้างสนุกสนาน ที่สำคัญเป็นหนังสือเล่มเดียวที่เคยเจอที่คนเขียนพาโลกโบราณของหนังสือกระดาษเป็นเล่ม ๆ มาเจอกับเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและพลพรรคชาวกูเกิลได้อย่างมองโลกในแง่ดีมาก ๆ 
ตัวละครแต่ละตัวอาจจะเพี้ยนบ้าง แต่น่ารักไม่มีพิษสง (ถ้าเขียนไม่ดีจะเสี่ยงต่อการทำตัวโลกสวยจนเกินเหตุ) ไม่เคยเจอแบบนี้เลยนอกจากในหนังของ Wim Wenders เรื่อง  Until The End Of the World กับ We All Laughed ของ Peter Bogdanovich มันเป็นหนังสือของคนที่ไม่ใช่ว่ารักหนังสือและเชื่อมั่นในกระดาษคือสรณะ (เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงมันอาจจะเลี่ยน) แต่มันก็ยังให้เห็นว่าหนังสือในอดีตของแต่ละคนก็มีบทบาทถึงโลกปัจจุบันอยู่ดี โดยไม่ต้องอนุรักษ์นิยมจนโอเวอร์
ใครสนใจติดต่อกับ Robin Sloan คนแต่งผู้น่ารักได้ที่ http://www.robinsloan.com/