20.6.51

บทเกริ่นนำ

ตอนนี้กำลังเขียนบทความให้หนังสือเล่มหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไมมันเขียนไม่ได้ดังใจ รู้สึกแย่มาก หากเพื่อนคนไหนมีเวลาอ่าน ลองช่วยดูซิว่ามันทะแม่ง ๆ ไหม
มันเป็นแค่ท่อนเกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง (ตอนนี้เขียนได้แค่นี้เอง)


กายของเธอ ห้องของคนอื่น: ตัวตนที่แตกสลายของ 3 นักเขียนหญิง
บทความโดย สนธยา ทรัพย์เย็น




Kiss the flame
Let's run with the hunted, the untamed
Kiss the flame
Embrace the faceless, the unnamed
Kiss the flame
Kiss the Flameดนตรีและเนื้อร้องโดย Jewel

กี่ครั้งกี่หนที่นิยายของนักเขียนหญิงว่ายวนไม่พ้นประเด็นเรื่อง “เพศสภาพ” กี่คนกี่เล่มที่ย้ำคิดย้ำทำทฤษฎีของ ซีโมน เดอ โบวัวร์ ที่ว่า “ผู้หญิงไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ถูกทำให้เป็นผู้หญิง” กี่ซับกี่ซ้อนที่คนอ่านต้องสะอึกรับอย่างหน้าชื่นว่า ความเป็นจริงก็หาใช่ไกลอื่น ตราบใดที่กลเกมเสน่หานั้นเป็นชัยชนะที่ไร้ใบหน้า เนื่องว่ายังไม่มีนิยามฟันธงถาวรระหว่าง ผู้ได้ / ผู้เสีย หรือ ผู้ครอบงำ / ผู้โอนอ่อน
เป็นเพราะหมากที่ผู้หญิงเล่นยังเป็นหมากเก็บชุดเดิม กติกาตัวเดิม กรรมการหน้าเดิม กับวิธีเล่นแบบเดิม ๆ ใช่ไหม และถ้าเพียงเราล้มกระดานเสีย แล้วสร้างสัญลักษณ์ใหม่ขึ้นมา ความยุติธรรมในนามของความเสมอภาคก็จะสลายปัญหาร้างเรื้อทั้งหมด ให้เธอหลับสบายไร้กังวล หมดห่วงไปได้เลย เหมือนใช้ผ้าอนามัยไฮเทคเพิ่มกำลังซึมซับ 25 เท่า (จนลืมไปว่าตัวผู้หญิงเองต่างหากที่มีสถานะเป็นฟองน้ำชนิดดูดซึมความทุกข์ทุกชนิดได้ดียิ่งกว่า)

ถ้าเรื่องมันแก้ไขง่ายดายจริง เกมอำนาจระหว่าง 2 สถาบันคงขาดสีสนุกให้เพลินปาก ยิ่งเมื่อต้นความในประวัติศาสตร์แดงแจ๋แป๋วจ๋าว่า แม้แต่คุณ ซีโมน เองก็ไม่สามารถปฏิบัติตนให้ใกล้เคียงกับคำว่าเสมอภาคในสัมพันธภาพกับ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ นักปรัชญาคนสนิท และบทบาทที่เธอจำต้องยอมรับ ณ เบื้องหลังฉาก ก็มักไม่พ้นบทเด่นในเกมรอง
แต่เกมรองไม่ใช่หรือ ที่เป็นคีย์เวิร์ดของการเรียนรู้ โดยเฉพาะเมื่อเราหยิบเรื่องประสบการณ์ของเพศหญิงเป็นตัวตั้งในการเรียนรู้วัฏจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าร่างและความคิดของคนคนเดียว เพราะโลกกึ่งอุดมคติที่ผู้หญิงจำนวนน้อย (บางคน) ได้มีอภิสิทธิ์ยืนสูงกว่าปกติ อาจเป็นกรณีศึกษาที่ยากจินตนาการสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ (จำนวนมากกว่า) ซ้ำยังอาจเป็นกรอบจำกัดที่ไม่กระตุ้นให้เกิดวาทกรรมย้อนแย้ง หรือเกิดความรู้สึกร่วมได้เทียมเท่า


ถามใจชายเต็มตัวตั้งแต่หัวจรดหาง ให้มองสภาพข้อจำกัดทางสังคมอย่างเต็มตา มีใครสักกี่คนที่อยากเลือกเพศสภาพเป็นหญิง แม้ผู้หญิงเองก็เถอะ มีไหมที่ไม่คิดฝันอยากเป็นผู้ชายแม้สักครั้ง เปล่าประโยชน์ที่จะเอ่ยอ้างสโลแกนงามอย่างมีคุณค่า ทั้งภายนอกและภายใน ความงามตั้งแต่ต้นชนปลายของคุณที่ต่อให้เลิศเลอเท่าไรก็อาจไม่เพียงพอ หากบางครั้งยังต้องทำใจถูกตัดหัวผ่าร่าง ถอดหัวกระสือจาก Hi-5 ลอยไปแปะร่างผสมพันธุ์กับรูปกายเซ็กซี่สมบูรณ์แบบกว่า เพื่อกิจประสงค์ที่ชวนวังเวงใจ

สรีระของผู้หญิงที่ถูกถือสิทธิ์ใช้อย่างพละการ เสือกสานเท้าหลังกำยำมาชั่วลูกหลาน เป็นทางผ่านเข้า-ผ่านออกแห่งกำหนัดและกำเนิด ถูกตีตราจับจองไปพร้อม ๆ กับที่ถูกนับถอยหลังรอวันหมดอายุ ประดุจดั่งบาร์โค้ดที่รอเครื่องถอดรหัสฉายแสงประเมินคุณค่ากำหนดราคา ไม่มีร่างกายของเพศอื่นใดที่จะเอื้อความเนียนละเอียดให้ปั้นแต่งรูปทรง หรือเพื่อการนิยามความใด ๆ ได้มากถึงเพียงนี้มาก่อน และที่ล่วงล้ำย่ามใจถึงปลายนานั้นเล่า ใครเลยจะกล้าฟันธงว่ามันเป็นเพียงธุรการของสังคม ไม่เกี่ยวข้องเลยกับลักษณะทางชีวภาพและธรรมชาติจิตของตัวผู้หญิงเอง
ในนามของอำนาจแห่งเพศชาย และอำนาจมอบส่งโดยยินยอมของเพศหญิง (ที่ผู้เขียนอุปโลกน์เอาเอง) จึงขอกล่าวความถึงผลงานเขียนของ 3 นักเขียนหญิงต่างเผ่าพันธุ์ที่มีจุดร่วมและจุดต่างบนฐานใกล้เคียงกัน เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีเข้ารกเข้าพงที่หามีมูลหรือประโยชน์ชัดเจนแต่อย่างใดไม่ ด้วยประการฉะนี้แล

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอบคำถามก่อนว่า สำนวนอ่านยากสำหรับคนอื่นครับ

แต่ตอบโดยส่วนตัว นอกจากมันจะไม่ทะแม่งแล้วยังอยากอ่านต่ออย่างยิ่ง ได้โปรดเขียนให้จบด้วยครับ:)

/ FILMSICK

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่เห็นมีอะไรทะแม่งตรงไหน
ฝีไม้ลายมือยังคงเข้าฝักดีแท้
เห็นแล้วอยากอ่านอีก
สู้ ๆ นะลูกพี่
กระบี่นี้ไร้เทียมทาน

filmvirus กล่าวว่า...

ขอบคุณทั้ง filmsick และ กัลปพฤกษ์ อย่างมาก ๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจ พี่พยายามจะเขียนต่อ แต่ยังไงก็ยังรู้สึกว่าเริ่มไม่ดีมันเลยต่อไม่ได้ คิดไว้แล้วว่าจะเขียนอะไรเยอะแยะ แต่ไปไม่รอดแฮะ

ที่เซ็งที่สุดก็คือคำว่า สำนวนอ่านยากนี่แหละ

สงสัยเป็นอันจบเห่

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ต้องมาท้งมาท้อเลย

เห็นใจเด็กตาดำๆที่รออ่านใจจดใจจ่ออยู่บ้างดิพี่ หุหุ


/ชาย(วัยรุ่น)จมน้ำตาย ผู้ขี้เกียจที่สุดในโลก