
อีกอย่างที่ไม่คุ้นมานานมากคือ วลีเปรียบเปรยโบราณ เมื่อก่อนเคยนั่งจดสำนวนนิยายจีนกำลังภายในพวกนี้ลงสมุด แต่พอไปอ่านนิยายฝรั่ง ดูหนังอาร์ทที่ละเลียดกับตัวละคร ทำให้ไม่ชินลิ้นกับการตวัดแปรงพู่กันฉวับเดียวแบบนี้อีก มันต่างกันเหมือนอย่างหนึ่งเป็นการทำ “ใน-ออกนอก” แต่อีกอย่างเป็น “นอก-เข้าใน” ยิ่งนิยาย “เงาฝันของผีเสื้อ” นี่มันเป็นนิยายที่เด่นในเชิงโครงสร้างมากกว่าพวกหนังยุโรปหลายเรื่อง ที่เน้นเรื่องง่าย ๆ พื้น ๆ ชนิดซึมซับละเมียดตามตับไตไส้พุงตัวละคร
แต่พออ่านไปนาน ๆ ก็คุ้นชิน ที่น่าประทับใจมากคือ ตอนที่ จูหยวนจาง สำรอกอาหารที่กินเพราะนึกถึงหน้าตาดูแคลนของ หลอกว้านจง (ซึ่งกลายร่างจากพี่น้องร่วมสาบานกลายเป็นยืนคนละฟากฝั่งเพียงชั่วไม่กี่นาที) กับตอนที่ หลอกว้านจง ช็อคเรื่องข่าวร้ายของพี่ชายร่วมสาบานสองคน หรือตอนที่ หม่าหลง เสียเชิงกลยุทธ แล้วเดินจากไปอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ก็บรรยายได้ดีมากถึงอารมณ์
นิยายเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ตำนานกำเนิดสามก๊กนี่หว่า นี่มันแทบจะเป็นตำนานชาติจีนเลยนี่นะ แค่นั้นไม่พอยังรวบเอามาถึงไทยอีกด้วย เอื้อ อัญชลี แกเล่นโยงประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์สามก๊ก มาถึงตำนานอพยพชนชาติจีนให้อยู่ในเล่มหนาเกือบ 400 หน้า ที่อ่านเพลิน เผลอแผลบเดียว เดินหน้าเร็วปานสายฟ้ารุ่นเยาว์ หลายทีเลยแหละที่ อ้าว อะไรฟะ ภายในประโยคเดียว ตีทัพได้แล้ว ไปกันมาไง อ่านกันมาเป็นร้อย ๆ หน้า ผ่านไปอีกสองประโยค อ้าวตายเสียแล้ว
ตกลง หลอกว้างจง กับพรรคพวก นี่โม้เกือบหมดเลยใช่มั้ย เอื้อ อัญชลี เธอโม้ได้ใจจริง ๆ ตั้งแต่อ่านนิยายโม้ประวัติศาสตร์หนังจริง-ลวงเรื่อง Flicker ของ Theodore Roszak มาเนิ่นนาน ก็มีเรื่องนี้แหละที่แหลจนได้เรื่อง อย่างนี้ต้องซูฮกสถานเดียวครับท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น