16.4.56

My Sassy Book ตอน 45: Everything is Nice โดย Jane Bowles



My Sassy Book ตอน 45: Everything is Nice
รวมเรื่องสั้น บทละคร จดหมาย และงานเขียนที่คั่งค้างของ Jane Bowles

คุณนายคอนสเตเบิ้ล: รีบเร่งเหรอ... ฉันไม่ยักรู้ว่าคนเขายังต้องรีบร้อนกัน.....
อินเนซ: เอาอีกแล่ว พ่อเจ้าประคุ้ณ
คุณนายคอนสเตเบิ้ล: ถ้างั้นคุณคงจัดอยู่ในหมวดของคนที่โชคดีที่ยังไมได้พบตัวเองอยู่ริมหลุมดำ เพราะจากนั้นแล้วมันไม่มีหรอกไอ้เรื่องรีบเร่งน่ะ มันมีแต่การรอคอย มันดูป่วยการไปหน่อยถ้าจะมามัวรักษาความสะอาด หลังจากที่เราได้มายืนตรงขอบหลุมเสียแล้ว

จากบทละครเรื่อง In the Summer House ของ Jane Bowles




อยากอ่านงานของ Jane Bowles (นามสกุลเดิม Auer) มาเป็นชาติ แต่กว่าจะหาหนังสือได้กี่ปีผ่านไป (ผลลัพธ์ของการอ่อนเน็ท)  งานเธอดูจิตตกพอกับชีวิตเธอเอาเรื่องอยู่ พูดให้ถูกคือตัวงานจิตตกมาก่อนที่ชีวิตจะตกสุด ๆ เสียอีก เห็นเธอบำบัดรักษาหลายครั้งทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ชวนให้นึกถึงนักเขียนหญิงที่ชื่อนำหน้าว่า Jane อีกคนคือ Janet Frame  (An Angel at My Table) เช้าใจว่าเธอต้องมีปมอิจฉาผัวเธอที่ได้รับการยอมรับมากกว่าด้วยแหละ เธอแต่งงานกับ  Paul Bowles คนแต่ง The Sheltering Sky ที่ John Malkovich กับ Debra Winger นำแสดง  Bernado Bertolucci กำกับ คู่ผัวเมียนี้เป็นโบฮีเมียนหัวก้าวหน้าที่ไม่ยึดติดกับคู่ของตัวเอง ต่างคนต่างคบคนรักที่เป็นเพศเดียวกัน แต่ก็ยังรัก ห่วงใยกัน ดูแลกันด้วย โดยเฉพาะคุณพอลสามีช่วยดูแลงาน ปรับแต่งงานเขียนให้คุณเจนด้วย เพราะเธอเครียดเกินไปจากงานเขียนที่ไม่สำเร็จดั่งใจ  และถ้าไม่ได้พอล งานเขียนของเธอที่มีน้อยนิดอยู่แล้ว (น้อยกว่าคาฟก้า) อาจถูกเธอทำลายทิ้งเองไม่เหลือ

งานเธอส่วนใหญ่ในเล่มนี้บอกอาการคนที่ restless สุด ๆ คนที่กลัวการถูก reject ซึ่งประสาทเลื่อนลั่นได้กระทั่งระหว่างพี่น้องผู้หญิง แม่และลูกสาวในไส้ รักกันแต่ปฏิเสธกันได้ตลอด ทั้งด้วยอารมณ์ชั่วแล่นและอารมณ์ที่หมกซ่อนไว้นานนมจนบูดเน่า นั่งคุยกันแต่ไม่มีใครฟังกันเลยเกือบจะเป็นบทละครแอบเสิร์ดของ Samuel Beckett 




เรื่อง Camp Cartaract นี่อ่านยังกับบทละครเรื่อง In the Summer House ทำให้ทึ่งว่า space ละครนี่มันเหมาะกับการแสดงความ restless ปิดประตูพบทางตัน ทั้งไม่มีที่ไป ทั้งไม่พบทางออกได้ดี อารมณ์เดียวกับบทละครพวก Eugene O' Neil กับ Tennesse Williams ได้ดี แบบหลับตานึกถึง Desire Under The Elmes หรือ A Streetcar Named Desire ได้เลย และความพ่ายแห้ของตัวละครที่ไร้เพื่อนมันโหดนะ กับผู้ใหญ่ว่าโหดแล้ว กับตัวเด็กในเรื่อง A Stick of Green Candy ยิ่งแรง เพราะเธอมีแต่เพื่อนในจินตนาการ ซึ่งท้ายสุดยังต้องยกคืนให้กับความเป็นจริงอีก หมายเหตุว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายที่เธอเขียนจบ เพราะเธอร่อแร่กับอาการป่วยสารพัดมาหลายปี  บำบัดแล้วก็ไม่ดีขึ้น

สรุปลักษณะตัวละครขี้ระแวงคงยกให้เธอเป็นหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่อง Plain Pleasure ที่เขียนดีเหลือเกิน มันบอกชัดว่าก่อนจะถูกปฏิเสธ ฉันต้องชิงปฏิเสธก่อน แล้วเข้าไปอยู่ในโลกของความฝันดีกว่า


* ปก ปกของ เจน โบวล์ส นี้ย้ำให้จำได้ว่าทำไมถึงทำ Bookvirus เล่ม "นารีนิยาม" และ "นางเพลิง" ก็เพราะต้องการตอกย้ำว่าเป็นหนังสือที่ผู้หญิงเขียนน่ะซี้

ไม่มีความคิดเห็น: