My Sassy Book (3) The Brief History of the Dead คนตายที่มีชีวิตเบื้องหน้าความทรงจำ
The Brief History of the Dead
Written by Kevin Brockmeier
สำนักพิมพ์ Vintage
(หนังสือโดนใจเดือนธันวาคม 2550)
ดินแดนหลังความตายมีหน้าตาเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่มีเขตแดน ที่นั่นโลกยังคงหมุนไปไม่ต่างจากโลกของคนปกติ ทุกคนทำงานและใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เหมือนเมื่อตอนที่ยังมีชีวิต มีทั้งร้านกาแฟ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น คนทำความสะอาดถนน คนจรจัด บริษัท และร้านรวงนานาชนิด เป็นภาพคุ้นตาที่เราพบเห็นเช่นเดียวกับทุกเมืองในโลก
พวกเขาจะอาศัยที่นั่นจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องผ่านต่อไปสู่ดินแดนใหม่ ตราบเท่าที่ยังคงมีใครสักคนบนโลกยังมีความทรงจำถึงพวกเขาอยู่ คนตายแล้วก็จะมีตัวตนสืบไปในเมืองนั้น แต่เมื่อใดที่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงคนสุดท้ายตกตายตามไป ภาพชีวิตทั้งหมดของคนที่เคยคงอยู่ก็จะจากหายไปดังธาตุอากาศ
ทุกคนในเมืองรู้จักหญิงสาวที่ชื่อ Laura Byrd (ลอร่า เบิร์ด) ดี พวกเขาซึ่งมีทั้งมิตรและศัตรูต่างรู้จักเธอไม่ก็ทางใดทางหนึ่งด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป แต่ตัว ลอร่า เบิร์ด ก็ยังไม่โผล่มาที่นั่น แม้ว่าทั้งพ่อและแม่ของเธอจะรอคอยการมาถึงของเธออย่างใจจรดใจจ่อ
ลอร่า เป็นหนึ่งในคณะสำรวจของบริษัทโคคา-โคล่าที่เดินทางกับกลุ่มเพื่อนร่วมงานไปวิจัยตลาดถึงแอนตาร์กติกา เพียงการพักอาศัยที่นั่นให้รอดจากความหนาวต่ำกว่าจุดเยือกแข็งนั้นก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแล้ว แต่การค้นพบว่าทั่วทั้งโลกเหมือนติดโรคระบาดครั้งสาหัสกลับยิ่งสยองกว่า สุดท้ายชาวคณะต่างร่วมใจออกเดินทางตามหาแหล่งความหวังสุดท้ายท่ามกลางความขาวโพลน
นิยาย The Brief History of the Dead ของ Kevin Brockmeier (เควิน บร็อคไมเออร์) อาจมีส่วนคล้ายกับ The Hard-Boiled Wonderland and the End of the World ของ Haruki Murakami (ฮารุกิ มูรากามิ) ตรงที่เล่าเรื่องในโลกคู่ขนานต่างภพสลับกันไปมาจนกระทั่งถึงตอนขมวดปม แต่ต่อให้พล็อตเรื่องจะเป็นหัวใจสำคัญ ถึงยังไงในส่วนของรายละเอียดตัวละครประกอบก็ไม่ใช่แค่ภาพแบน ๆ โดยเฉพาะการบรรยายภาพความหนาวเหน็บที่คณะสำรวจของ ลอร่า เบิร์ด ต้องทนทรหด ภาพนิมิตหลังความตายที่ทุกคนต้องเจอในแบบฉบับที่แตกต่างกันก่อนจะได้มาอาศัยที่ตัวเมือง รวมทั้งอาชีพต่างๆ ที่คนตายแล้วยังก้มหน้าทำงานเหมือนเมื่อตอนที่ยังมีชีวิต ภาพจัตุรัส หรือร้านกาแฟที่คนในเมืองชอบไปนั่งเล่นในวันหยุด
ที่สำคัญตัวละครคู่สามีภรรยาชราที่ให้ภาพจริงของคนรักที่อยู่ด้วยกันมานานจนเกิดส่วนผสมของความหงุดหงิดแอบแฝงในความคุ้นชิน Kevin Brockmeier แต่งภาพของคนแต่ละคนในชุมชนได้ดีพอ ๆ กับที่ Haruki Murakami ระบายภาพของคนสันโดษในเมืองจินตนาการที่ Hard-Boiled Wonderland and the End of the World
น่าสังเกตตรงที่นิยายให้ภาพของบริษัทโค้กในด้านค่อนข้างลบ นี่ถ้าสร้างเป็นหนังอาจมีสิทธิ์โดนฟ้องหรือโดนแบนโดยบริษัทโคคา-โคล่า (ไทย)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
4 ความคิดเห็น:
ตอนอ่าน hard boiled wonderland เราชอบไอเดีย คู่ขนานมากๆ แต่เอาเข้าจริงชอบโลกปกติมากกว่าโลกแห่งเงาพิกล
แต่อ่านที่พี่เล่าพลอตมา น่าสนใจมาก
อดคิเดต่อได้ว่า ในเมืองท่าแห่งการรอคอยการเลือนดับลับหายนี้ สมมติว่าคาฟกาอาศัยอยู่ แล้วเขาอยากละทิ้งไป แต่ไม่อาจละทิ้งไปได้ เพราะนังสือเขายังมคึนอ่านจนถึงทุกวันนี้บางทีคาฟกาอาจจะลงมือเขียนนิยายในเมืองนั้นว่าด้วยการ มีชีวิตไปนิรันดร 555 (คิดเล่นๆไป)
ชอบอะไรที่เกี่ยวกับความทรงจำ การลืม การสูญเสีย ไป (เป็นสาเหตุหลักที่ผมชอบ NIGHT OF THE HUNTED มากๆๆๆ) เสียดายก็แต่ภาษาอังกฤษนั้นจำกัดเหลือเกินเลยได้แต่อานเรื่องย่อเอาแถวๆนี้แหะๆ
/ FILMSICK
ชาย หมายถึงว่า คาฟก้า ลืมคืนหนังสือ หรืออ่านยังไม่จบ แล้วแต่งนิยายในเมืองนั้น ฟังดูก็โรแมนติคดี
ภาษาอังกฤษชายดีพอที่จะอ่าน พี่เชื่อน่า
นึกถึง After Life ของ Koro Eda บ้างไหม
ลองคิดเล่นๆต่อจากที่เขียนไว้ เรื่องมันเป็นแบบนี้นะครับ
หลังจาก ฟรานซ์ คาฟก้าตายลง เขาย้ายตัวเองมาอยู่ที่เมืองท่านี้ ทันทีที่เขามาถึงพ่อของเขาก็จากไป เพราะเขาเป็นคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่และจดจำพ่อตัวเองได้ นั่นก็เพราะความหวาดกลัวพ่อของเขาเป็นแรงผลักในการเขียนหนังสือ ในเมืองที่ไม่มีพ่อ คาฟก้าใช้ชีวิตสบายๆอยู่หลายปี แต่เพราะเขาคือคนดัง จนถึงทุกวันนี้ยังมีคนอ่านหนังสือของเขา ยังมีคนจดจำเขาได้ ยังมีรูปของเขาแปะตามที่ต่างๆ มีนักศึกษาทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเขาทุกปี เขาจึงถูกจดจำ และไม่สามารถไปจากเมืองนี้ได้ ในที่สุดเขาก็ลงมือเขียนหนังสือ เกี่ยวกับความเบื่อหน่ายของเมืองที่ไม่มีพอ และการเป็นที่จดจำไปตลอดกาล
แต่เขาก็พบว่าเขากำลังจะได้ไปจากเมือง มีคนส่งจดหมายแจ้งว่าเขาต้องไปแล้ว ไม่ใช่เพราะผู้คนเลิกอ่านหนังสือของเขา แต่เพราะการตีความหนังสือของเขา การพูดถึงเขาเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นสัญลักษณ์ ในที่สุด คาฟก้า ก็ไม่ได้มีอยู่ เขากลายเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เกี่ยวกับตัวเขาเองอีกต่อไป
คิดเรื่องต่อแล้วสนุกดีแฮะ
/FILMSICK
xปล. ตอนแรกไม่ได้คิดพอพี่บอกก็เออแฮะ เป็นภาคอาจจะไม่โรแมนติค ของAFTER LIFE จริงๆด้วย
เฮ้ย ชาย วิญญาณนักเขียนเข้าสิงล่ะสิ เข้าท่า ๆ อ่าน อมตะ แล้วอินใช่มั้ยเนี่ย
แสดงความคิดเห็น