20.12.53

My Sassy Book ตอน 21: The Lovers ของ Vendela Vida

อ่านมาว่าหนังของ Julia Roberts ใน Eat Drink Pray Loveเป็นตัวแทนความคิดของฝรั่งผิวขาวที่สร้างความรู้สึกดีให้ตัวเอง โดยไปทำตัวเป็นผู้รู้ ผู้เหนือกว่าวัฒนธรรมแต่ละอันที่ตัวเองไปข้องเกี่ยว แทนที่ตัวเองจะอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไปเรียนรู้ กลับไปเสนอหน้าสอนเขาเสียอีก เลยนึกถึงนิยายที่อ่านจบไปนานแล้วเรื่อง The Lovers ของ Vendela Vida ที่อาจจะเป็นด้านกลับ

เรื่องของ อีวอนน์ แม่บ้านที่สามีตาย ตอนตายใหม่ ๆ คนก็สงสารกลัวเธอจะอยู่คนเดียวไม่ได้ ในความทรงจำสามีก็ดูดี แต่เวลาผ่านไปมันก็งั้น ๆ เขาไม่ใช่คนดีวิเศษ แต่ก็ไมใช่คนเลว แต่งงานไปนาน ๆ อิสระเสรีเป็นยังไง ก็เริ่มสะกดไม่ถูก แต่พอเธอขยับใช้ชีวิตจริง เออ มันก็อยู่ได้ เสียงนกเสียงกาที่พูดกันน่ะ น่ารำคาญ  

ลูกชายเธอก็ไปได้ดี ห่วงแต่ลูกสาวที่เธอกับสามีคิดว่าไม่มีอนาคต อยู่กับแฟนคนไหนไม่ได้นาน แล้วยังต้องไปเข้าบำบัดจิต เวลาลูกสาวติดต่อมาแต่ละที เธอนะใจแป้ว 

แล้วการเดินทางไปตุรกี ย้อนหาภาพฮันนีมูนเก่าแก่อันสวยงามของเธอที่เคยไปกับสามี ก็จะนำเธอไปสู่การเรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้น มันไม่ใช่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ มันแค่บอกว่า เธอไม่ควรไปกะเกณฑ์ว่ารู้อะไรดี เพราะของทุกอย่างมันมีชีวิตของมัน มันมีทิศทางของมันอยู่แล้ว มุมของเธอมันก็แค่อีกอันในจักรวาลเท่านั้น ความปรารถนาน่ะดี ถ้ารู้และไม่หวังจะเปลี่ยนแปลงโลก

หนังสือมีประโยคดี ๆ เช่นมุมที่เธอ - อีวอนน์ มอง แมธธิว ลูกชาย 

Matthew, though well meaning, understood her on a superficial level. Was that fair? She wondered. Mother, Teacher, Historian, wife, Widow. He did not look beyond these terms, these roles. But Yvonnne had not done so with her own mother either.

หรือบทบาทที่คนอื่นมอง The problem with being a history teacher was that everyone assumed your interest in the past was undying. Every birthday gift was an antique.

หรือมุมที่เธอมองนักท่องเที่ยวที่ชวนเธอไปล่องเรือด้วย อันนี้ไว้ตอบ จูเลีย โรเบิร์ตส์ หรือความคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว “ในแบบที่ควรเป็น” ได้

Yvonne liked them. She liked their clear demonstration to enjoy their vacation together: it seem oddly rare. More common were people who took satisfaction in not having a good time, who expected a country to prove it was deserving of the trouble it took to get there.

อีวอนน์ รู้จักกับสาวบนเรือที่ชวนเธอไปเที่ยวด้วย สามีเธอนำเข้าเพชรพลอย และเธอพูดอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นดีไซน์เนอร์ อีวอนน์ ดูออกว่าของที่เธอใช้เป็นของที่ แครอล ออกแบบเอง มันยิ่งทำให้ แครอล ภูมิใจมากขึ้นไปอีก

Carol beamed. It was what every woman wanted. Yvonne thought, for the life around her-her clothes, her house, her car-to look like her, to be an extension of her.

อีวอนน์ ไม่ได้เตรียมตัวกับการรับมือสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้ดีนัก เธอพยายามทำตัวเป็นทัวร์ริสต์ที่ดี แต่บางทีบทบาทนี้อาจะไม่เหมาะกับเธอเลยก็ได้ เธอต้องรู้จักทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกอย่างจะมีคำตอบ หรือเธอจะมีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไร และคนอื่นก็มีวิธีมองเธอแบบของเขาที่เธอเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อย่างเดียวที่ทำได้คือรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ดี แล้วก้าวไปข้างหน้า

พล็อตอาจฟังดูทื่อ ๆ แต่นักเขียนสาวคนนี้ Vendela Vida (ภรรยาของ Dave Eggers) เขียนได้อย่างเข้าถึงผู้หญิงและหัวใจของการท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว

สำนักพิมพ์ Ecco Books

ไม่มีความคิดเห็น: