12.5.51

My Sassy Book (7) Click เมื่อนักเขียนรวมพลังทำบุญ

My Sassy Book (7) Click นักเขียนรวมพลังทำบุญในงานศิลป์

(Note: เล่มนี้ที่จริงต้องเก็บไว้เขียนให้ ช่อการะเกด เดือนตุลาคม แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีความตั้งใจทำจนจบไหม เขียนหนังสือนี่มันเรื่องน่าเบื่อจริง ๆ)

ไม่บ่อยนักที่นักเขียนดังระดับนานาชาติ 10 คนจะร่วมใจมาเขียนนิยายเรื่องเดียวกันคนละ 1 ตอน

ถาม บ.ก. ของ ช่อการะเกดดูแล้วของไทยก็เคยมีเหมือนกัน ประเภทผลัดกันแต่งนิยายเรื่องเดียวกันเนี่ย ทำมาตั้งแต่สมัยนักเขียนรุ่นสุภาพบุรุษนั่นแน่ะ แต่นักเขียนรุ่นเว็บบล็อกนี้เราก็มีนะ เท่ไม่หยอก ที่ http://lonesome-cities.exteen.com/ นี่ไง หนำซ้ำยังไฮเทคตามยุคสมัย ไม่จำกัดแค่เป็นเรื่องสั้น แต่เป็นได้ทั้งหนังสั้น หรือภาพถ่าย ล่าสุดเห็นโยงใยกันไปถึง มาร์เกอริต ดูราส (Marguerite Duras) นั่นเลย

ใน Click นี้บรรดานักเขียนใจบุญเขาทำงานกันฟรีให้องค์กร Amnesty International นักเขียนที่คนไทยเราพอจะรู้จักก็คงเป็น Roddy Doyle นักเขียนชาวไอริชที่แต่งนิยายดัง ๆ เช่น Paddy Clarke Ha Ha Ha หลายเรื่องอย่าง The Commitments, The Van, The Snapper ถูกนำไปสร้างเป็นหนัง นอกจากนั้นก็มี Nick Hornby คนแต่งเรื่อง About A Boy ที่ ฮิว แกรนท์ แสดงจนโด่งดังน่ะแหละ อีกคนก็ Eoin Colfer เจ้าของวรรณกรรมเยาวชนที่ขายดีในบ้านเราอย่าง Artemis Fowl

ไม่รู้เขาเตี๊ยมเรื่องกันอีท่าไหน อ่านดูในเล่มก็ไม่เห็นบอกว่าทำงานกันยังไง เลยเดาเอาเองว่าคงคุยโครงเรื่องและตัวละครหลักคร่าว ๆ คือ สมมติตัวละครครอบครัวหนึ่งขึ้นมา มีพ่อ แม่ และลูกชาย ลูกสาวอย่างละคน มีตัวละครสำคัญเป็นคุณตาของเด็ก ๆ ชื่อ Gee เป็นช่างภาพที่ต้องเดินทางทั่วโลก

เปิดบทแรก คุณตา Gee ตาย ทิ้งมรดกให้หลานคนโปรดทั้งสอง แม็กกี้ ได้รับกล่องไม้ทำมือดีไซน์แปลก ๆ มีช่องขนาดเล็กซ่อนอยู่ในกล่องมากมาย ข้างในมีเปลือกหอยสะสมจากทะเลทั่วโลก คุณตา Gee กำชับไว้ในจดหมายขอให้ แม็กกี้ ตระเวนเอากลับไปคืนยังธรรมชาติ เพราะของแต่ละชิ้นมีเรื่องเล่าเฉพาะตัวที่ตา Gee อยากให้หลานได้เรียนรู้ ส่วน เจสัน พี่ชายของ แม็กกี้ ได้รับกล้องถ่ายภาพของตาไว้ดูต่างหน้า

หลังจากนักเขียนคนแรก Linda Sue Park ปูตัวละครไว้เสร็จ ก็เป็นหน้าที่ของนักเขียนคนอื่น ๆ ที่จะต่อเรื่องไปทางไหนก็ได้ บางคนสนใจเรื่องของลุงก็แต่งเรื่องการผจญภัยของลุงอย่างเดียว บางคนสนใจหลานสาวก็เน้นไปทางนั้น บางคนเพิ่มให้ เจสัน เป็นลูกเลี้ยง โตขึ้นเข้ากับครอบครัวไม่ได้ อยากจะเอากล้องไปขายทิ้ง บางคนเน้นแต่ตัวละครประกอบมากว่าตัวละครหลัก เรียกได้ว่ายิ่งเขียนกันตามใจฉันเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คนที่มาต่อเรื่องรายต่อ ๆ ไปต้องหนักใจมากขึ้น แต่ก็เอาตัวรอดกันไปได้ทุกราย

ในเรื่องของความเป็นหนึ่งเดียวคงยากทีเดียวที่จะทำให้ออกมาดีสมบูรณ์แบบ เพราะตัวตนของนักเขียนแต่ละคนก็แรงกล้ากันทั้งนั้น แต่ในแง่ของรายละเอียด และเป็นกรณีศึกษาการแต่งเรื่องแล้ว ถือเป็นงานที่ควรอ่านมาก

ถ้าเขียนไหว อาจจะเขียนอย่างละเอียดลง ช่อการะเกด อีกที ตอนแรกคิดว่าเขียน ศิลปะส่องทางให้กัน ตอน Joseph Cornell ใน ช่อการะเกด 43 นั่นคงเป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว หมดแรงจริง ๆ

น่ามีแปลเป็นไทยนะเล่มนี้ ซื้อเล่มปกแข็งได้ที่ร้านหนังสือ Kinokuniya

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มีอ้างอิง LONESOME CITIES ด้วย แหะๆ
อนึ่ง ลุ้นให้เขียนให้จบยาวๆครับ ผมว่าพี่เขียนสนุกมากๆๆ

/FILMSICK

filmvirus กล่าวว่า...

แต้งกิ้วหลายที่ชมจ้า คนแรกนะเนี่ยที่อ่านรู้เรื่อง